เกร็ดเล็กๆ.. "Super Meteor 650" ที่ใครเขาก็ว่าดี(?)..

หากคุณขี่แบบไม่คิดมากคุณอาจจะตกหลุมรัก แต่ถ้าเป็นสายฮาร์ดคอร์อาจจะผิดหวังเล็กน้อย.. เพราะคาแร็คเตอร์หลักของ Royal Enfield "Super Meteor 650" คือความ "เข้าถึงง่าย" เน้นกลุ่มขับขี่สบายๆ ไม่เน้นกลุ่มใช้ชีวิต.. ดังนั้นใครกำลังหามอเตอร์ไซค์สายลำบากขอให้หลบไปก่อน!

"Not for everyone, but everyone can enjoyed it."

และอย่างที่บอกว่าไบค์เกอร์สายคลาสสิคขนานแท้อาจจะไม่ชอบ เพราะทุกอย่างของรถคันนี้มันง่าย มันสบายไปหมด ..ถ้าคุณกำลังเหนื่อยกับรถคลัทช์แข็งๆ ซีซี.ใหญ่ๆ คันเร่งสุดอ่อนไหว ก็อาจจะโดน Super Meteor ตกเอาง่ายๆ ให้ไปจอดเคียงข้างครุยเซอร์คันใหญ่ที่บ้านอีกสักคัน..

นอกจากความสบายที่ให้มาแล้ว ยังเป็นครุยเซอร์ที่เก็บคำว่าคลาสสิคเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งรูปร่าง หน้าตา ท่านั่ง แต่ก็ยังใส่ความทันสมัยเอาไว้ให้มัน "ขี่ง่าย" ทั้งก้านคลัทช์+เบรกที่ปรับระดับได้ ออกแรงเหนี่ยวนิดเดียวก็ทำงานได้ดังใจ ประหนึ่งรถสปอร์ตที่เปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงง่ายทันควัน

ส่วนกำลังของเครื่องยนต์ก็พอเหมาะพอดีให้ใช้งานในเมืองได้ไม่เหนื่อยเลย สามารถคุมคันเร่งในการจราจรของประเทศกรุงเทพฯได้อย่างคล่องแคล่ว ..ถึงแม้วงเลี้ยวจะกว้างไปหน่อย .. และยังทำความเร็วสูงสุดได้ทะลุ 160 กม./ชม. แน่ๆ สำหรับใครที่ชอบทำเวลาก่อนฟ้ามืดน่าจะถูกใจ..

และใครที่กำลังกังวลกับน้ำหนัก 240 กก. ของ Super Meteor ก็ขอให้เบาใจ เพราะทันทีที่ล้อหมุน ก็เหมือนรถเบาหวิว จะรู้สึกอีกทีก็ตอนเข็นนี่แหละ แนะนำให้จอดแล้วเข็นเอา อย่าได้เอาขาไถเชียวนะ เหนื่อย.. ที่สำคัญคือน้ำหนักแบบนี้ทำให้การขับขี่ทางไกลสบายมากๆ เมื่อรถติดลมแล้วเราก็แค่ประคองคันเร่งให้มันไหลไปกับเส้นทางข้างหน้าก็พอ

ท่านั่งที่สบายๆ ระยะแขนที่วางบนแฮนด์กำลังดี แม้ว่าคนรูปร่างเล็กก็สามารถจอยกับการขับขี่แบบนี้ได้.. ส่วนที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้สัมผัสคือมันมี "สมรรถนะในการทำความเร็ว" ซะด้วย.. ช่วงความเร็วสูงที่เราขับขี่เล่นโค้งกันบนถนนในเขาใหญ่นั้นคล่องตัวอย่างไม่น่าเชื่อ น่าจะเป็นประโยชน์จากระยะฐานล้อที่ไม่ยาวมากเหมือนครุยเซอร์ทั่วไปนั่นเอง

จุดที่ชื่นชม

• เครื่องยนต์ 648 ซีซี. เสื้อลม ปรับจูนจากรุ่น Interceptor และ Continental ให้มีคาแร็คเตอร์รอบต่ำจัดจ้าน แต่ก็สามารถสนุกกับแรงบิดได้อย่างไม่อันตรายจนเกินไป.. ลักษณะแบบนี้สามารถขี่ในเมืองได้อย่างชิลล์ๆ หรือทำความเร็วก็ได้จนทะลุ 160 กม. ++

• โช้คหน้า USD 43 มม. จาก Showa คือดี.. ลองหล่นกระแทกหลุมแถวลำตะคองดูก็ยังไม่ได้ยินเสียงโช้คกระแทก เพราะเขาให้ระยะยุบมาถึง 120 มม.

• ควมคุมง่าย..​ เพราะระยะฐานล้อที่ไม่มาก ทำให้ครุยเซอร์คันนี้ "พลิกเลี้ยวง่ายโคตร" ในขณะเดียวกันก็ยังไม่เจออาการหน้าสะบัดแต่อย่างใด..

ข้อสังเกตุคือ

• แม้มันจะเป็นรถที่ขี่ง่าย คุมง่ายมากๆ แต่องศาเลี้ยวของแฮนด์นั้นถือว่ากว้างพอสมควร การนำมาซอกแซกในจราจรหนักๆอาจจะกลายเป็นหนังชีวิตนิดหน่อยจากการที่มันหมุนแฮนด์ได้ไม่มากเท่าที่ควร

• กันสะเทือนหลังที่ให้มาค่อนข้างกระด้าง แม้จะปรับพรีโหลดไปที่นุ่มสุดแล้วก็ยังมีอาการอยู่ ทั้งนี้อ้างอิงจากตัวผมแค่คนเดียวนะครับ

• หน้าปัดอ่านยาก.. จากการที่ต้องจับข้อมูลมากมายลงบนจอดิจิทัลอันเล็กๆ รวมถึงมาตรวัดความเร็วที่มีหน่วยวัดไมล์/ชม. พ่วงมาด้วย โดยรวมมันจึงมีขนาดตัวอักษรที่ถือว่าเล็กมาก

• ไมล์ทริปเปอร์ถ้าไม่ใช้งานจะทำหน้าที่เป็นนาฬิกาบอกเวลา.. ซึ่งถ้าไม่เชื่อมต่อแอปฯเป็นครั้งคราวจะทำให้มันบอกเวลาไม่ตรง

ภาพรวมของ Super Meteor 650 คันนี้จึงเป็นรถที่ขี่ง่าย เข้าถึงง่าย มือใหม่ก็ขี่ได้ มือเก๋าก็สนุกกับมันได้ไม่ยาก.. แต่อาจจะขัดใจสายคลาสสิคสุดๆที่ต้องการฟีลลิ่งความลำบากของการบีบคลัทช์ เข้าเกียร์ คุมคันเร่งเนียนๆ

อย่างไรก็ดี ราคาที่เอ็นฟิลด์จัดมาให้คือใจสั่น เพราะรุ่นพื้นฐานเริ่มต้นแค่ 269,000 บาท เท่านั้นเอง 🫢

#SuperMeteor650#PureCruising#PureMotorcycling#royalenfield